#พี่ปั้นกับน้องลม EP.19 : Hands to myself

EP19 #พี่ปั้นกับน้องลม : Hands to myself




“ข้าวปั้นไม่มาหรอครับลุงหมาย” ลมเอ่ยถามคุณลุงคนขับรถประจำตระกูล วันนี้คงจะต้องรบกวนให้ลุงหมายมารับเขากลับบ้านเพราะว่าเขานั้นไม่ได้เอารถจอดไว้ที่โรงเรียน 


เขาหุบรอยยิ้มที่ฉีกกว้างในทันทีเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้นั่งมาในรถด้วยเหมือนครั้งก่อนๆ

นี่งอนเขาจนถึงไม่มารับกันเลยงั้นเหรอ


“คุณข้าวปั้นบอกว่าไม่ค่อยสบายครับเลยให้ลุงมารับคุณลมแค่คนเดียว”
“ข้าวปั้นเป็นอะไรครับ”
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ คุณเขาบอกลุงมาแค่นั้น” ลุงหมายตอบกลับแล้วหันมาส่งยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ลมถอนหายใจเล็กน้อยแล้วหันมองออกนอกหน้าต่างเมื่อรถยนต์ถูกเคลื่อนตัว


เขาก้มลงมองแชทในโทรศัพท์ที่ขึ้นว่าอ่านแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบรับ ล่าสุดที่ข้าวปั้นตอบเขาก็เมื่อเที่ยงตอนที่ลมส่งข้อความไปหาว่ากำลังกลับแล้ว อย่าลืมมารับเขาด้วย

แต่ข้าวปั้นกลับตอบมาแค่ ดูก่อนนะ เป็นประโยคที่เขาไม่คิดว่าข้าวปั้นจะพิมพ์มันออกมาเลย


เขาคงทำให้อีกฝ่ายเสียใจมากจริงๆ
แต่เขาไม่ได้ตั้งใจ ไม่เคยตั้งใจให้ข้าวปั้นรู้สึกแย่เลย

นี่แทบจะเป็นครั้งแรกที่ข้าวปั้นดูโกรธเขาจริงๆเสียด้วยสิ
ใจเสียไปหมดแล้ว


.  .  .  .  .  .  .  .  .



“ลุงต้องไปรับนายแม่ต่อรึเปล่าครับ” เขาก้มมองดูนาฬิกาข้อมือก่อนที่จะเอ่ยถามลุงหมายคนขับรถ เวลานี้ก็ใกล้จะเป็นเวลาที่นายแม่ของเขาจะเลิกงานที่บริษัทแล้ว
“วันนี้คุณนายไม่กลับนะครับ ไปประชุมผู้บริหารใหม่ที่หัวหิน ท่านบอกจะกลับพรุ่งนี้เช้าครับ” ลุงหมายตอบกลับพร้อมเปิดประตูรถให้กับลูกชายทายาทอันดับสองของธุรกิจพันล้าน
“อ้าว ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ลมตอบกลับพอดีกับที่เขาก้าวขาลงจากรถ แถมยังประจวบเหมาะที่ดันเงยหน้าไปเห็นข้าวปั้นยืนอยู่ที่ริมหน้าต่างในห้องของเจ้าตัวอย่างพอดิบพอดี เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าลมเห็นเขาแล้วก็รีบปิดม่านแล้วเดินกลับเข้าไปภายในตัวห้องแทน


เห็นแบบนั้นแล้วใจเสียชะมัดเลย

ข้าวปั้นไม่เคยทำแบบนี้กับเขาเลยนะ


“เป็นประชุมด่วนน่ะครับ คุณนายเพิ่งไปเมื่อเช้า ท่านยังว่าเสียดายที่ปีนี้ไม่ได้จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณปั้นเลย” ลุงหมายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดายสุดขีด ลมพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับเพื่อเดินเข้าบ้าน
“คุณลมครับ วันนี้คุณหมอกกับคุณฟ้าก็ไม่อยู่นะครับ” แต่ทว่ากลับถูกลุงหมายขัดขึ้นเสียก่อน คนได้ฟังถึงกับต้องขมวดคิ้วแล้วหันมาถาม
“พี่หมอกผมไม่สงสัย แต่ฟ้าไปไหนครับ?”
“คุณฟ้าไปกับท่านครับ ส่วนคุณหมอกเห็นบอกว่าติดทำงานกลุ่มที่มหาลัย”
“ขอบคุณนะครับ ลุงไปพักเถอะ” ลมตอบกลับปัดๆด้วยความหงุดหงิดใจ นี่นอกจากจะอยู่ในสถานการณ์อึมครึมกับคนรักแล้วยังไม่มีใครอยู่ให้เขาปรึกษาอีกหรอ

ลมส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วส่งกระเป๋าเป้ที่มีของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยให้กับคนรับใช้ เขาเดินเลี่ยงขึ้นบันไดเพื่อเดินขึ้นไปที่ห้องของข้าวปั้นทันที ส่งมือไปเคาะประตูจนเกิดเสียง แต่เจ้าของห้องก็ยังคงไม่ตอบรับอะไรกลับมา

“แก้มตุ่ย เปิดประตูหน่อยสิ” ลมพูดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากภายในตัวห้อง เขาจึงลองเลื่อนมือไปบิดลูกบิดประตูแทน ..ใช่ล่ะ มันไม่ได้ล็อค

เชื่อเขาเถอะว่าเจ้าตัวไม่ได้ลืมล็อคห้องหรอก
ตั้งใจเปิดไว้ให้เขามากกว่า

ลมฉีกยิ้มขึ้นมาบางๆแล้วเปิดประตูเข้าไปภายในตัวห้อง เขาสาวเท้าไปที่เตียงในทันที ข้าวปั้นที่นั่งแน่นิ่งอยู่บนเตียงหันมามองหน้าเขาเล็กน้อยแล้วหันหนีไป

“ยังไม่หายงอนกันอีกหรอหืม” ลมหย่อนตัวลงนั่งข้างๆข้าวปั้นที่นั่งอยู่บนเตียง ส่งมือไปหยิกแก้มอวบอิ่มเบาๆ ข้าวปั้นจิ๊ปากเบาๆด้วยความหงุดหงิดแล้วส่งมือมาตีเข้าที่แขนลมอย่างแรง
“ไม่ต้องยุ่ง”
“ไหนว่าดีกันแล้วไงแก้มตุ่ย หายงอนลมเถอะนะ” ลมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะยื่นคางไปเกยไว้ที่ไหล่เล็ก ข้าวปั้นเอียงคอมามองหน้าอีกฝ่ายที่สลดจนน่าสงสารแล้วก็ใจอ่อนขึ้นมาเสียดื้อๆ


ขาใจอ่อนอีกแล้ว

แพ้ทุกทีเลย กับลมพายุคลื่นนี้เนี่ย!


  “เอามือมา” ข้าวปั้นพูด ลมเอนใบหน้ามองอีกฝ่ายแบบไม่เข้าใจแต่ก็ยื่นมือทั้งสองข้างให้กับข้าวปั้นในท่าที่เหมือนว่าเขาโอบข้าวปั้นจากด้านหลัง
“มือข้างไหนพิมพ์คอมเมนต์ มึงพูดมา” 
“เอาแบบนี้เลยหรอแก้มตุ่ย” ลมเอ่ยถามอย่างเอ็นดู ใจนึงนึกหัวเราะในใจกับความน่ารักของข้าวปั้น 
“พูดมา”
“ข้างนี้” ลมพูดขึ้นแล้วยกมือข้างขวาขึ้นเล็กน้อย ข้าวปั้นทำหน้านิ่งแล้วจับมืออีกฝ่ายไว้
“จำไว้นะลม” ข้าวปั้นพูดขึ้นแล้วก้มใช้ฟันขบที่ฝ่ามือของอีกฝ่าย
“โอ๊ย เจ็บนะเนี่ย” ลมร้องลั่น ตอนแรกก็นึกว่าข้าวปั้นจะส่งมือมาตีเขา ที่ไหนได้ กลับกันอย่างสิ้นเชิง 
“สมน้ำหน้า!” เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความสะใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด แต่มีหรือที่คนอย่างลมพายุคนนี้จะปล่อยให้อีกฝ่ายกระทำเพียงแค่ฝ่ายเดียว เขายื่นหน้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายรัวๆเมื่อข้าวปั้นเผลอ 

..ถูกข้าวปั้นทุบ และโวยวายเมื่อโดนเขาแกล้ง แต่ไม่สนใจหรอก ขอเอาคืนบ้างแล้วกัน คนขี้แกล้งส่งมือไปจั๊กจี้เข้าที่ข้างเอวของคนตัวเล็กจนข้าวปั้นที่ดิ้นพล่านต้องล้มตัวลงนอนเพื่อหาทางหนี หารู้ไม่ว่าวิธีนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายกลั่นแกล้งได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

ลมพลิกตัวคร่อมอีกฝ่ายแล้วจับข้อมือทั้งสองข้างของข้าวปั้นให้อยู่ติดแนบชิดกับเตียง คนโดนแกล้งเบ้ปากด้วยความไม่พอใจในทันที

“อะไรของลมเนี่ย!”
“สัญญาอะไรไว้ยังไม่ลืมนะ”
“ปล่อยเลย นี่โกรธอยู่นะ” ข้าวปั้นพูดขึ้น ลมจึงโน้มใบหน้าลงไปใกล้จนเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของกันและกัน 

ไม่มีใครได้พูดหรือเอ่ยอะไรกลับมา มีเพียงสองสายตาที่มองจ้องกันด้วยความคะนึงหา 


รักเหลือเกิน

สายตาคู่นี้


อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปลิ้มลองรสชาติริมฝีปากหอมหวานของอีกฝ่าย ลมก้มลงประทับริมฝีปากล่างของข้าวปั้นเบาๆก่อนจะค่อยๆกลืนกินเข้าไปอย่างโหยหา เขาดูดกลืน และแลกสัมผัสกันจนเกิดเสียงน่าอาย ลมส่งลิ้นร้อนเขาไปไล่ต้อนความหอมหวานภายในโพรงปากเล็ก โดยที่อีกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาปล่อยมือทั้งสองข้างของข้าวปั้นให้เป็นอิสระ คนที่พ้นการรัดกุมก็ส่งมือไปโอบรอบคอของอีกฝ่ายไว้ในทันที 

“คิดถึงจัง” ลมพูดขึ้นแผ่วเบาเหมือนเอ่ยกระซิบเมื่อเขาถอนจูบอันหอมหวานออก ดวงตาหวานยังคงจับจ้องที่ดวงตาคมอย่างห้ามไม่ได้
“ลมอย่าไปพูดแบบนี้กับใครอีกนะ” เขาตอบกลับ คล้ายคำสั่งแต่สำหรับข้าวปั้นมันเป็นเพียงคำขอร้องเท่านั้น ลมยิ้มบางๆแล้วโน้มใบหน้ามากดริมฝีปากลงที่ปลายจมูกรั้นของคนใต้ร่างแผ่วเบา
“สัญญาครับ” ข้าวปั้นยิ้มออกมาบางๆแล้วพยักหน้า ลมพลิกตัวลงมานอนด้านข้างแทน เขารั้งร่างเล็กให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกดแล้วฝังจูบลงบนหน้าผากมนด้วยความอ่อนโยน
“ลมรักปั้นคนเดียวนะ”
“ปั้นก็รักลมคนเดียวเหมือนกัน” เขาตอบกลับ ไม่รู้ว่าทำไมเพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยคำพูดอะไรออกมา เขาก็พร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ


สงสัยเพราะรักล่ะมั้ง ข้าวปั้นคิดแบบนั้น 

.  .  .  .  .  .  .  .  .

“นี่ซื้อมาให้ด้วยหรอ” ข้าวปั้นเอ่ยถามลมเมื่ออีกฝ่ายยื่นเค้กก้อนเล็กๆมาให้กับเขา เพียงแค่การกระทำที่เล็กๆที่มีความหมายของลมก็ทำให้ข้าวปั้นฉีกยิ้มกว้างออกมาได้โดยไม่ต้องถามหาสาเหตุ
“วันเกิดแฟน ต้องมีดิ” เขาตอบกลับแล้วยื่นใบหน้าไปหอมแก้มข้าวปั้นเล็กน้อย 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงกล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อกันขนาดนี้
นอกจากที่พวกเขาสองคนจะอยู่ในห้องส่วนตัวของลมแล้วก็ยังไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากสาวใช้อีกด้วย

“จริงๆแค่มีมึงก็พอแล้ว”
“ก็ต้องมีกูอยู่แล้ว ที่รัก” ลมเอ่ยคำหวาน ยังคงทำให้ข้าวปั้นยิ้มได้อย่างเคย ลมใช้เทียนขนาดเล็กปักลงไปที่ตรงกลางของเค้ก แล้วหยิบไฟแช็กในกล่องออกมาจุดไฟ 

เขาส่งมือไปลูบผมข้าวปั้นที่นั่งอยู่ข้างๆเบาๆด้วยความเอ็นดู ถึงแม้ว่าข้าวปั้นจะอายุมากกว่าเขาหนึ่งปี แต่สำหรับเขาข้าวปั้นก็ยังเป็นคนที่เขาต้องดูแลให้ดีที่สุดเลยล่ะ

ข้าวปั้นหลับตาลงเพื่อขอพรในวันเกิดของตัวเอง นอกจากจะขอให้ตนเองนั้นมีความสุขในทุกๆวันแล้วก็ยังขอให้คนรอบข้างของเขามีความสุขเช่นกัน ที่สำคัญ ขอให้เขากับลมรักกันไปนานๆเลยนะ

.. เขาก้มลงเป่าเทียนเบาๆ จนเปลวไฟที่ถูกจุดไว้ดับลง เขาหันไปมองหน้าลมที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“มีความสุขมากๆนะคนดีของลม” ลมพูดขึ้น ไม่ใช่บ่อยๆหรอกที่เขาจะได้พูดจาหวานชวนเลี่ยนกันแบบนี้ แต่มันก็ดีไปอีกแบบเลยล่ะ ข้าวปั้นพยักหน้าแล้วเขยิบตัวไปนั่งตักอีกฝ่ายแทน เขากอดลมเอาไว้แน่นแทนคำขอบคุณ เช่นเดียวกับลมที่กอดรัดร่างนุ่มนิ่มนั้นไว้เหมือนกัน

ลมเลื่อนใบหน้าไปดูดกลืนริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ของข้าวปั้นอีกครั้ง มันยังคงหอมหวานน่าลิ้มลองเหมือนเคย

“ อื้อ.. ” เสียงหวานในลำคอของคนตัวเล็กดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายทนไม่ไหวที่จะส่งเรียวลิ้นเข้าไปรุกล้ำในโพรงปากหวาน ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเขาไปพันเกี่ยวกันอย่างเชื่องช้า ลมกระชับอ้อมกอดให้อีกฝ่ายเข้าหาตนให้มากขึ้น โดยที่ข้าวปั้นก็กอดรัดคนเป็นน้องไว้แน่นกว่าเดิม

เขาละริมฝีปากออกจากริมฝีปากเล็กที่สั่นระริก เคลื่อนตัวมาประทับจูบย้ำๆลงที่ซอกคอหอมกรุ่นแทน ข้่าวปั้นครางในลำคอเบาๆหลังจากที่ถูกขบเม้มตามใบหูอย่างเชื่องช้า และเนิบนาบ ก่อนที่ลมจะหันกลับมาแทรกเรียวลิ้นไปหยอกล้อกับโพรงปากหวานอีกครั้ง

ลมโอบอุ้บร่างเล็กที่นั่งอยู่บนตักให้ชันตัวขึ้นโดยที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังไม่หลุดออกจากกัน ทั้งสองยังคงบรรจงจูบอย่างไม่มีใครยอมใคร เขาปล่อยข้าวปั้นลงบนเตียงเบาๆก่อนจะผละริมฝีปากออกแล้วเลื่อนลงไปกดจูบที่ซอกคอขาว ไม่วายจะขบเม้มทำรอยแดงเอาไว้

“ฮื่อ ลม” ข้าวปั้นพูดเสียงแผ่วเมื่อถูกอีกฝ่ายรุกร้ำด้วยการขบเม้มที่ซอกคอ มันเจ็บแต่กลับรู้สึกดี ถึงจะยังไม่ชินเพราะเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ลมทำกับเขานี่ล่ะ


อันตรายแล้วข้าวปั้น


“เจ็บไหม” ลมละริมฝีปากออกจากรอยรักเพื่อเอ่ยถามอีกฝ่าย เขาปั้นส่ายหน้าเล็กน้อย และคำตอบนั้นเองที่เป็นเหตุให้ลมไม่เลือกที่จะหยุดยั้งตัวเอง

“อ๊ะ.. งื้อ” เสียงหวานครางขึ้นเมื่อร่างสูงบนร่างเริ่มส่งมือเข้ามาภายใต้เสื้อยืดตัวบางของเขาเพื่อลูบไล้ตามเอวคอด ลมเลื่อนใบหน้าลงมาระดมจูบไปทั่วร่างกายของข้างปั้น ตั้งแต่ต้นคอลงมาถึงไหปลาร้าสวย ความรู้สึกวาบหวิวที่เกิดขึ้นทำให้ข้าวปั้นต้องส่งมือไปขย้ำลงบนผมนุ่มของอีกคนเพื่อระบายความรู้สึกแปลกใหม่
ไม่ทันได้ตั้งตัว เสื้อยืดตัวบางของเขาปั้นก็ถูกถอดออกไปเสียแล้ว ลมก้มลงจูบซับลงบนผิวละเอียดเนียน ไล่ตั้งแต่หน้าท้องขึ้นไปจนถึงแผ่นอกบาง คนใต้ร่างบิดเร้าเล็กน้อย และยังคงร้องครางออกมาด้วยความเสียวกระสันไม่ขาดสาย

“อื้อ ลม ฮึก มัน..​ งื้อ” ส่งลิ้นไปโลมเลียเข้าที่ตุ่มไตที่ชูชันขึ้นมาพร้อมรับการปรนเปรอ เขาละเลียดชิมความหอมหวานทั้งสองข้าง ร่างเล็กก็เผลอแอ่นกายขึ้นรับสัมผัสวาบหวามอย่างลืมตัวเมื่อคนด้านบนก้มลงดูดเม้มตุ่มไตสีหวาน

“ลมฮื้อ ไม่เอาแล้ว” ข้าวปั้นร้องท้วงทันทีเมื่ออีกฝ่ายเริ่มซุกซนไล้เลียไปทั่วร่างกายท่อนบนของเขา ถ้าตัวเขาไปยืนส่องกระจกดูคงจะต้องเป็นรอยไปทั้งตัวแล้วแน่ๆ บ้าชะมัดเลย!

“อย่าดื้อ” ลมเลื่อนใบหน้าไปกระซิบเขาที่ข้างหูแล้วขบเม้มลงที่ใบหูเล็กเพื่อเป็นการลงโทษ

ลมชันตัวขึ้นถอดเสื้อของตนออกอย่างชำนาญก่อนจะส่งฝ่ามือร้อนของตนไปบีบเคล้นตามเอวคอดเพื่อกลั่นแกล้งคนตัวเล็กใต้ร่างที่ทำได้เพียงนอนตัวบิดเร้าอยู่ใต้ร่างของเขาอีกครั้ง

“อ๊ะ..” ลมแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานอีกครั้งก่อนจะกวาดต้อนความหอมหวานจนอีกฝ่ายเริ่มเคลิ้มไปกับรสจูบ

“ลมอย่าแกล้ง ฮื่อ” ข้าวปั้นท้วงขึ้นหลังจากที่ร่างสูงเลื่อนมือลงไปรั้งกางเกงขาสั้น และชั้นในที่เขาใส่เอาไว้ออกอย่างชำนาญโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างเล็กหนีบขาเข้าหากันทันที สรุปได้ว่าตอนนี้เรือนร่างของข้าวปั้นเปลือยเปล่าด้วยฝีมือของลมเสียแล้ว

“ยังไม่ได้แกล้งซะหน่อย” เขาตอบกลับอย่างยียวนเมื่อเห็นใบหน้าเหยเกของอีกฝ่าย มือแกร่งเลื่อนไปจับที่ขาของข้าวปั้นไว้เพื่อที่จับให้มันอ้ากว้างขึ้น แต่ทว่าข้าวปั้นกลับหนีบขาเรียวของตนเองไว้แน่นด้วยความหวั่นใจ

“ไม่ต้องอาย เห็นหมดแล้วเนี่ย” ลมพูดคล้ายคำปลอบประโลม แต่คนฟังถึงกับหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาด้วยความเขินอาย เขาส่งมือไปตีเข้าที่ไหล่ของอีกฝ่ายอย่างแรง ลมหัวเราะร่าออกมาเมื่อเห็นความน่ารักของคนตัวเล็ก

“ไม่เอา! อย่าลม ฮื้อ” รีบร้องท้วงขึ้นทันทีเมื่อยอมอ้าขากว้างให้อีกฝ่าย ลมแทรกตัวเข้าไปจูบซับที่เรียวขาด้านใน ขบเม้มทำรอยแดงไว้ให้ชื่นชม  
“อื้อ.. ลม หงึ” ข้าวปั้นเชิดหน้าครางเสียงสั่นเมื่อเรียวลิ้นของลมแตะลงบนส่วนปลายมนแก่นกายของเขา ใช้ลิ้นไล้วนที่ส่วนปลายอย่างหยอกล้อก่อนจะค่อยๆกลืนกินเข้าไปอย่างเนิบนาบ และส่งนิ้วเรียวรูดรั้งเบาๆเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้กับร่างเล็ก ก่อนที่จังหวะเนิบนาบในคราแรกจะค่อยๆเร็วขึ้นจนข้าวปั้นต้องส่งมือไปขย้ำผมอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อระบายอารมณ์ใคร่ โดยที่ร่างเล็กก็ยังคงแอ่นตัวรับสัมผัสอันร้อนแรงนั้นอย่างห้ามไม่อยู่

“อ๊ะ! ลม อื้อ.. ไม่ไหวแล้ว” ข้าวปั้นครางเสียงหวานก่อนจะเชิดหน้าขึ้นหอบหายใจถี่รัวตามจังหวะลิ้นร้อนที่ยังดูดดุนอยู่ที่แก่นกายของเขา มือหนารั้งเรียวขาของอีกฝ่ายให้แยกออกจากกันและแทรกตัวเข้ามาเพื่อปรนเปรอคนตัวเล็กให้ถึงสุดของห้วงอารมณ์ได้ถนัดขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ริมฝีปากหนากลืนกินเข้าไปอย่างไม่รังเกียจก่อนจะกดจูบลงที่ปลายมนอีกครั้งอย่างหลงไหล

ความแปลกใหม่นี้ยังคงทำให้ข้าวปั้นหอบหายใจอย่างหนักหน่วงกับความรู้สึกใหม่ที่เข้ามาทักทาย ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัด เขาปรือตามองมาที่ลมอย่างฉ่ำเยิ้มจนคนโดนมองถึงกับยิ้มชอบใจ

“ไหนตอนแรกเขินไงพี่ปั้น”
“มึงทำบ้าอะไรเนี่ย ฮือ อย่าแกล้งกู”
“อันนี้ยังไม่ได้ทำ แต่หลังจากนี้เรียกว่าทำ

ไม่ทันขาดคำ เขาโน้มใบหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปากหวานทันที ส่งมือมาปลดเข็มขัด และถอดกางเกงของตนเองออกอย่างง่ายดาย แก่นกลางใหญ่ที่ตั้งผงาดขึ้นมาเล่นเอาข้าวปั้นถึงกับกลืนน้ำลายดังอึก

“กูทำไมเป็นนะลม” 
“ใครบอกให้มึงทำล่ะ” ลมพูดสวนขึ้นทันที ใบหน้าของข้าวปั้นก็ยังขึ้นเป็นสีแดงจัดชวนมองอยู่เสมอ เรียวลิ้นร้อนถูกไล้เลียลงมาตั้งแต่ต้นคอจนถึงส่วนล่างของร่างเล็กอีกครั้ง ลมส่งมือไปรั้งเรียวขาทั้งสองข้างของข้าวปั้นให้แยกออกกว้างขึ้น
“ลม เดี๋ยวคือ.. มันเจ็บไหม” เขาเอ่ยถามออกมาอย่างน่าอาย แต่ทำไงได้ล่ะก็เขากลัวนี่นา ลมส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วส่งยิ้มให้
“เหมือนมดกัด เคยอ่านมา” ลมตอบกลับเบาๆ ข้าวปั้นหลับตาปี๋เมื่ออีกฝ่ายนำนิ้วไปไล้วนที่ช่องทางด้านหลัง 

“ฮื่อ ลม ไม่เอาแล้วกลัว” ร้องงอแงออกมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายใช้น้ำลายของเขาช่วยเบิกทาง ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำเขาหวิวไปทั้งตัวแบบนี้มันไม่ดีเลย ปวดหนึบไปหมด
“อึก.​. เจ็บ! ฮือลมเจ็บ พอแล้ว” ข้าวปั้นสะดุ้งเฮือกจนผวาเผลอจิกลงเข้าที่ไหล่ของคนด้านบน เมื่อนิ้วเรียวยาวจะถูกสอดแทรกเข้าไปโดยที่ร่างเล็กไม่รู้ตัว เขาเบ้หน้าลงด้วยสีหน้าเจ็บปวด หยาดน้ำตาอาบไหลลงแก้มใสของข้าวปั้นในทันที มันเจ็บแปลบ และจุกไปหมด 
ลมที่เห็นท่าทางงอแงของคนตัวเล็กก็ทำได้เพียงโน้มใบหน้าลงไปกดจูบซับน้ำตาให้ข้าวปั้นอย่างอ่อนโยนได้ที่ค้างนิ้วเรียวไว้ที่ช่องทางด้านหลังให้เขาได้ปรับตัว ส่งเรียวลิ้นไปพันเกี่ยวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

“อื้อ..” เสียงครางหวานเล็ดลอดออกมาจากการช่วงชิงอากาศหายใจในริมฝีปาก ลมค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆก่อนเพิ่มจำนวนนิ้วจากหนึ่ง เป็นสอง และสาม ความเจ็บในคราแรกเหลือเพียงแต่ความต้องการและความเสียวกระสัน

ลมยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นร่างเล็กใต้ร่างสั่นระริกจากความเสียวกระสันที่ได้รับจนเผลอส่งเสียงหวานร้องครางออกมา เห็นเช่นนั้น ร่างสูงจึงเร่งขยับนิ้วเข้าออกที่จุดเดิมซ้ำๆจนช่องทางสีหวานเริ่มขยายออกพร้อมรับสิ่งที่ใหญ่ยิ่งกว่านิ้วเรียวของเขา

“ลมขอนะพี่ปั้น” เขาโน้มใบหน้าลงไปกระซิบที่ข้างหูของข้าวปั้น ข้าวปั้นพยักหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบ เขาจึงกดจูบลงบนแก้มใสแทนคำขอบคุณ


ครั้งแรกของเรา
ครั้งแรกของข้าวปั้น
และครั้งแรกของลม

เขาจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของกันและกันตลอดไป


“ฮื่อ ลม เจ็บ” ข้าวปั้นร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายค่อยๆกดส่วนปลายเข้ามาทางด้านหลัง ส่งมือไปจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ข้าวปั้นกัดริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น ลมจึงค้างแก่นกายอยู่อย่างนั้นเพื่อให้ร่างเล็กได้ปรับตัวกับขนาดใหม่ที่เพิ่งได้เข้ามาในกายของเขา
“คนเก่งของลม นิดเดียวนะครับ” ลมพูดขึ้นเพื่อปลอบประโลมก่อนจะกดจูบลงบนขมับของร่างเล็ก แล้วเลื่อนลงมาจูบซับหยาดน้ำตาตามปรกตาและแก้มใสเพื่อให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย แล้วค่อยๆดันแก่นกายเข้าไปจนสุด
“อื้อ..” เสียงหวานครางในลำคอเบาๆ หลังจากถูกไล่ต้อนจูบเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อลมเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มปรับตัวกับความแปลกใหม่ได้แล้ว ก็ตัดสินใจที่จะค่อยๆขยับตัวเข้าออกช้าๆ เขาส่งมือกลับมาปรนเปรอให้กับข้าวปั้นอีกครั้ง ไม่วายจะส่งลิ้นไปขมเม้มลงที่เนินอกเนียนอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
“อ่า.. แน่นชิบ” ลมเอ่ยเสียงต่ำ และควงเอวแกร่งเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ เช่นเดียวกับข้าวปั้นที่เริ่มหลงระเริงกับความต้องการของตนเอง ความเจ็บปวดในคราแรกของเขาเหลือเพียงแต่ความหอมหวานเท่านั้น
“งื้อ..​ลม อ๊ะ เบาๆหน่อยดิวะ ฮือ” ข้าวปั้นร้องท้วงเมื่อร่างสูงเลื่อนริมฝีปากออกไปซุกไซร้เข้าที่ลำคอขาวแต่ก็ยังกระแทกส่วนล่างหนักหน่วงตามความต้องการ ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้นหอบหายใจถี่ มือหนารั้งขาเรียวให้แยกออกมากขึ้นก่อนจะกระแทกกายเข้าไปย้ำๆที่จุดกระสัน
“อืม..”
“อ๊า! ลม ฮึก เจ็บนะ” ร่างเล็กครางไม่เป็นศัพท์ เสียงเนื้อยังคงกระทบกันไม่ขาดสาย ร่างเล็กสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก 
“อื้อ..” คนตัวเล็กเล็กยังคงครางกระเส่า ลมเลื่อนใบหน้าไปขบเม้มลงที่ซอกคอขาว ข้าวปั้นส่งมือไปขย้ำลงบนกลุ่มผมนุ่มของลมเพื่อระบาย
“มะ.. ไม่ไหวแล้ว อื้อ!”
“อืม..” 
สองเสียงดังขึ้นประสานกันอย่างพร้อมเพรียงเมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์ ก่อนที่คนตัวเล็กจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะเปรอะเปื้อนตามกล้ามท้องเป็นรอนสวยของร่างสูง ลมขยับร่างกายเข้าออกที่จุดกระสันถี่รัวขึ้นและกระตุกเกร็งปล่อยน้ำรักออกที่ช่องทางด้านหลัง ร่างเล็กตอดรับหยาดน้ำอุ่นจากคนบนร่าง

ข้าวปั้นหอบหายใจถี่รัว ปรือตามองคนบนร่างที่ก้มใบหน้าลงมากดจูบที่ขมับของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ร่างสูงจะถอดแก่นกายของตนออก

“ขอโทษ เจ็บมากไหม” เขาเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย 
“ไหนบอกมดกันไง ลมหลอกทำไมอะ!” ข้าวปั้นตอบกลับ ไม่วายจะส่งกำปั้นมาทุบลงที่ไหล่หนาเบาๆ
“อ่านมาเขาบอกว่าเหมือนมดกันทั้งรังเลย” 
“นิสัยไม่ดี!” ลมหัวเราะร่าเมื่อได้ฟังคำตอบของอีกฝ่าย เขาพลิกตัวลงนอนด้านข้างแล้วรั้งร่างของข้าวปั้นที่ยังควบคุมลมหายใจไม่ได้มากอดเอาไว้
“รักมึงนะแก้มตุ่ย”
“มึงทิ้งกูมึงตายแน่” ข้าวปั้นตอบกลับ ลมโน้มหน้าลงไปกดจูบลงที่ริมฝีปากของข้าวปั้นเบาๆ
“มึงเป็นของกูแล้วนะ” ลมพูดขึ้นแผ่วเบา


ทั้งตัวแล้วก็ใจเลย







  • ฝากกลับไปคอมเม้นท์ขอฟีดแบคหรือจะสกรีมในแท็กทวิตเตอร์เหมือนเดิมก็ได้นะคะ รักเสมอ

เปิดวาร์ป #พี่ปั้นกับน้องลม http://www.joylada.com/story/59afc6697d9f8200015a8c83


สุขสันต์วันเกิดนะคะข้าวปั้น อันนี้นับเป็นของขวัญแล้วกันนะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

#ไม่ชัดเลยจีม CH24: Obvious (NC)

#ไม่ชัดเลยจีม CH17: Ambiguous (NC)

#แค้นรักหลินฮุน EP.23 : You lied (NC)